วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กำเนิดอัญมณีสีเปียกปูน

        หากเรานึกถึงสีของเจ้าขนมเปียกปูน แว๊บแรกก….ก
 ที่เรานึกถึงคงหนีไม่พ้นสีดำทมิฬ อันชวนไม่น่ากินเอาซ่ะเลย แต่เมื่อพูดถึงรสชาติกลับหอมหวานชวนรับประทานต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกเสียกระไร หรือหากใครจะไม่เห็นด้วยว่าเจ้าขนมเปียกปูนเนี๊ย!! ไม่ได้มีแต่สีดำซักหน่อย บ้างก็ว่าสีเทา บ้างก็ว่าสีเขียว สีครามๆอะไรก็ว่ากันไป แต่หารู้ไม่ว่าแรกเริ่มเดิมที สีของเจ้าขนมนี้ก็คือสีดำที่เกิดจากการเผาใบตาลสดเพื่อให้ได้ถ่านสีดำนั่นเอง ส่วนขนมเปียกปูนหลากสีสันที่ว่ามานั่นเกิดจากการนำมาดัดแปลงผสมผสานส่วนผสมเอาซ่ะใหม่ ใส่สมุนไพรให้สีสันสวยงามบ้างก็ว่ากันไป (ปัจจุบันขนมเปียกปูนสีดำกลายเป็นของหายากไปซ่ะแล้ว)

        เกริ่นนำมาซ่ะนานเลยไม่รู้ว่าเจ้าตัวมีจุดประสงค์เพื่อขายขนมหรืออย่างไร ฮ่าๆๆ เลยจะขอบอกว่าไม่ใช่การโฆษณาขายขนมไทยแต่อย่างใด แต่มันเป็นที่มาของชื่อ “กำเนิดอัญมณีสีเปียกปูน” หรือว่า การเกิดของผู้เขียนนามว่า “นิล” นั่นเอง เป็นชื่อเรียกสั้นๆที่เอาไว้เรียกเล่นๆ เอาเป็นว่า เป็นชื่อเล่นที่เอาไว้เรียกสั้นๆล่ะกันเนอะ 555

       ตั้งแต่ลืมตาดูโลกที่โรงพยาบาลสมเด็จ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2535 นาฬิกาหมุนที่เวลา 00.01 เป๊ะ! พ่อนิลก็ตระเตรียมชื่อนี้ไว้ให้แล้วล่ะ พร้อมกับชื่อเข้าโรงเรียนความหมายสวยๆว่าด้วยผู้มีผิวพรรณดุจดั่งทองคำว่า “จารุวรรณ (คันทะพรม)”



        ย้อนกลับขึ้นไปชื่อเล่นที่เรียกสั้นๆ นิลเองก็มารู้ความหมายเอาจริงๆ ตอนครูถามเมื่อเรียนชั้นประถมนี่แหล่ะ เลยกลับไปถามพ่อผู้ตั้งให้ ว่ามันหมายถึงอะไรล่ะนี่ ได้คำตอบมาว่า นิล คือพลอยที่มีสีดำ
(แหม่!..ความหมายของชื่อจริงกับชื่อเล่นนี่ช่างขัดแย้งกันจริงๆเชียว) 555
       
ถามต่ออีก แล้วทำไมต้องตั้งให้ลูกดำด้วยอ่า พ่อตอบกลับทันทีเลยว่า กลับไปดูรูปตัวเองตอนเด็กๆสิ๊!  เอิ่มม..ม ดูแล้วว…ว รู้แล้ววว…ว จริงอย่างที่พ่อว่าเนอะ อิอิ (จริงๆแล้วพ่อเอาความหมายในส่วนที่เป็นอัญมณีจะได้มีคุณค่า ส่วนเรื่องสีนั้นแถมมา เพราะแปลกดีไม่มีคนตั้ง) คน 100 คนนานๆจะเจอซักคนนึง ว่าไปแล้วใครที่ชื่อนิลกันบ้างก็เชิญ comment ด้านล่างเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่ายังมีคนชื่อนิลอีกตั้งหลายคนแน๊ะ! (หาแนวร่วมๆ) 55

        รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันพอสมควรแล้วเนอะ ต่อไปจะได้แทนตัวเองถูก อิอิ  ตัวนิลเองเกิดที่
จังหวัดชลบุรี ส่วนพ่อกับแม่เป็นคนพื้นเพจังหวัดขอนแก่น(เลือดอีสานเต็มตัว แต่เว้าบ่ได้เล้ย..)
เป็นลูกสาวคนโตของครอบครัวซึ่งมีน้องชายและน้องสาวอีกสองคนที่คลานตามกันมาติดๆ(3 พี่น้องเกิดกันคนล่ะจังหวัดเลย)

       
นิลเองเป็นเด็กหลายจังหวัดหลายโรงเรียนเพราะต้องย้ายตามพ่อ มีงานขึ้นที่ไหนก็ต้องไปที่นั่น ไม่แปลกเลยที่นิลจะรู้จักและมีเพื่อนมากหน้าหลายตา เพราะต้องทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นนิลก็เป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย(รึเปล่าไม่รู้)ค่อนข้างขี้อาย ไม่กล้าเข้าไปคุยกับใครก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไรดี แต่ถ้ารู้จักและสนิทแล้วจะรู้ว่านิลเป็นคนพูดมาก ชอบเล่นมุขแป๊ก 555  
        นิลเกิดที่จังหวัดชลบุรี ไปโตที่เชียงใหม่ ย้ายมากรุงเทพฯ อุดรธานี หนองบัวลำภู เพชรบูรณ์ ขอนแก่น(โรงเรียนอนุบาลภูเวียง) เชียงราย(นานที่สุด ผูกพันที่สุดและจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนป่าบงแม่จัน) ต่อด้วยกรุงเทพฯ(จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนฉิมพลีตลิ่งชัน) และปัจจุบันนี้อยู่ที่จังหวัดนนทบุรี(จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนศรีบุณยานนท์ – กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) นี่เป็นชื่อโรงเรียนคร่าวๆที่นิลพอจะจำได้ที่เหลืออีกหลายโรง ไม่ใช่ว่าไม่จำแต่ตอนนั้นยังเด็กมากๆ อีกซักประมาณ 2 - 3 โรงเรียน 



       
      กับเรื่องราวและการเดินทางที่มากมาย ทำให้นิลต้องพบเจอกับผู้คนกับประสบการณ์ที่หลากหลายแตกต่างกันไป ตั้งแต่ลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้เป็นเวลา 21 ปีแล้ว แต่ความฝันและจุดหมายที่ได้ตั้งใจไว้ก็ยังคงแน่วแน่ไม่แปรเปลี่ยนคือ การตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ หากไม่มีพ่อและแม่ก็คงจะไม่มีนิลในวันนี้
        


       พ่อแม่บอกกับนิลเสมอว่า "พ่อกับแม่ไม่มีสมบัติอะไรจะให้ลูกนะ ให้ได้ก็คือการส่งเสียให้เรียนจบปริญญา ต่อจากนั้นลูกต้องคิดเอาเองว่าจะทำอย่างไรกับตัวเองต่อไป" คำพูดนี้ทำให้นิลเองย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า สมบัติที่นิลได้รับจากพ่อแม่คือการได้เรียนหนังสือ นิลจึงตั้งใจรักษาสิ่งที่พ่อแม่ให้มาให้ดีที่สุดด้วยการตั้งใจเรียน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คำว่าดีที่สุดในที่นี้ไม่ได้วัดกันด้วยคะแนนหรือเกรดเฉลี่ยใดๆ แต่วัดมาจาก “รอยยิ้ม” ของพ่อแม่เมื่อท่านได้ภาคภูมิใจกับลูกสาวคนนี้




    
        ในวันนี้นิลได้เดินทางตามความตั้งใจของตัวเองมาได้เกือบครึ่งค่อนทางแล้ว(30%) หนึ่งในความภาคภูมิใจที่ผ่านมาคือการสอบเข้าเรียนในคณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว ของมหาวิทยาลัยศรีนครทวิโรฒได้ (จิตวิทยาเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้นิลรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าจากการที่ได้ช่วยเหลือคน ให้เขาได้สบายใจขึ้นหรือบรรเทาอาการทุกข์ใจ นิลถือว่าเรื่องของความรู้สึกและจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญมาก) 

        
นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นิลได้ตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองและจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเลือกด้วยการตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เพื่อที่จะสามารถบรรลุอีกหนึ่งความตั้งใจของพ่อแม่และนิลเอง ด้วยการเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้สอนหรือผู้บริหารสถานศึกษา(พ่อแม่อยากให้รับราชการ) และศึกษาในระดับที่สูงต่อไป
        
       กว่าจะมาถึงวันนี้นิลต้องผ่านอะไรมามากมายทั้งปัญหา อุปสรรค ความสำเร็จ ทั้งที่เกิดจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจของตัวนิลเอง สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเข้ามาเป็นครูสอนให้นิลได้เรียนรู้ ว่าชีวิตไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดไว้ ไม่มีใครช่วยเราได้หากว่าเรายังไม่รู้จักที่จะช่วยตัวเองก่อน และที่สำคัญนิลอยากขอบคุณปัญหาและอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้นิลเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันใจที่ดี เพื่อที่จะต่อสู้กับสิ่งต่างๆที่กำลังจะผ่านเข้ามาในชีวิตและเดินทางไปยังความฝันของตัวเองให้ได้


        ท้ายนี้ก็ขอฝากบล็อกของนิล(เป็นบล็อกแรกในชีวิตเลย) ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของเพื่อนๆนักอ่านกันด้วยนะค่ะ หากไม่ดูเป็นการรบกวน ก็อยากจะชวนให้ติดตามอ่านเรื่องราวของความคิดแง่มุมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ทางจิตวิทยานำมาผสมผสานกับประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของอัญมณีสีเปียกปูนน้อยๆคนนี้ แล้วมาดูกันว่านิลจะสามารถนำประสบการณ์ที่มีมาสร้างเนื้อหากินใจผู้อ่านได้มากแค่ไหน ติดตามในตอนต่อไปนะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น