ศูนย์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี
จากโรงเรียนราชวิทยาลัย
สู่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี และวิทยาลัยมหาดไทย นับร้อยปี ณ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
อาคารหลังนี้ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
มิใช่เพียงโบราณสถาน แต่คือประจักษ์พยาน ที่จะบอกเล่าความเป็นไปของเมืองนนทบุรี จากอดีต…..สู่อนาคต
มิใช่เพียงโบราณสถาน แต่คือประจักษ์พยาน ที่จะบอกเล่าความเป็นไปของเมืองนนทบุรี จากอดีต…..สู่อนาคต
ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า
อาคารหลังนี้สร้างขึ้นโดยกระทรวงยุติธรรม
เมื่อ พ.ศ.
2453 โดยแบ่งพื้นที่มาจากที่ดินที่จัดซื้อไว้เตรียมสร้างเรือนจำมหันตโทษ(เรือนจำกลางบางขวาง)
เดิมมีจุดประสงค์ให้เป็นโรงเรียนกฏหมายแต่เนื่องจากยังไม่มีบุคลากร
จึงได้ใช้เป็นที่ตั้งโรงเรียนราชวิทยาลัยแทน ตัวอาคารใช้งบประมาณก่อสร้าง 559,868.69
บาท สร้างเสร็จและเปิดทำการสอนเมื่อ พ.ศ.
2454 ต่อมาภายหลังโรงเรียนราชวิทยาลัยเลิกกิจการไป อาคารนี้จึงได้เป็นศาลากลาง
จังหวัดนนทบุรีระหว่าง พ.ศ. 2471-2535 หลังจากนั้นใช้เป็นที่ตั้งวิทยาลัยมหาดไทยมาจนถึง
พ.ศ. 2551
ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ประยุกต์ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อน
หันหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในสมัยก่อน
ตัวอาคารมีเนื้อที่รวม 2 ไร่ 2 งาน 51
ตารางวา เป็นอาคาร 2 ชั้นก่ออิฐถือปูน มี 7
หลัง วางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล้อมรอบลานกว้าง
เชื่อมต่อด้วยระเบียงทางเดินทำด้วยไม้ที่สร้างยื่นออกมารอบอาคาร ช่วยป้องกันแสงแดด
กับตัวอาคาร ด้วยคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางประวัติศาศาสตร์
กรมศิลปากรจึงขึ้นทะเบียนอาคารหลังนี้เป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ.
2524
ภาพอดีตนนทบุรีเมืองสวนผลไม้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
อนุรักษ์งานฝีมือที่หาดูได้ยาก
เครื่องปั้นดินเผาชาวนนท์ นับเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของศิลปะวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ และยังอนุรักษ์ให้คงอยู่เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไป เพื่อให้ซาบซึ้งถึงความเป็นไทยที่นับวันแต่จะหาดูได้ยาก
เทศบาลนครนนทบุรี และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรีจึงได้ร่วมอนุรักษ์งานฝีมือที่สืบเนื่องกันมาจากอดีตสู่ปัจจุบัน และคงอยู่เพื่อให้ลูกหลานได้ภาคภูมิใจกับงานศิลปะที่มีเพียงหนึ่งเดียวในเขตนครนนท์แห่งนี้
วิจิตรศิลป์ถิ่นนนท์ –
เกียรติยศแห่งนนทบุรี
ชื่นชมความงามของวิจิตรกรรมฝาผนังชั้นเยี่ยม อาทิ หนังใหญ่ทศกัญฐ์นั่งเมือง, หุ่นละครเล็ก หนุมาน คณะสาครนาฎศิลป์, หม้อน้ำลายวิจิตร กลุ่มหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดหรือแม้แต่ภาพแม่พระธรณีบีบมวยผมแห่งวัดชมภูเวกที่ได้รับการยกย่องว่างามที่สุดในประเทศไทย และมาทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญของนนทบุรีที่มีผลงานดีเด่นระดับชาติ
ชื่นชมความงามของวิจิตรกรรมฝาผนังชั้นเยี่ยม อาทิ หนังใหญ่ทศกัญฐ์นั่งเมือง, หุ่นละครเล็ก หนุมาน คณะสาครนาฎศิลป์, หม้อน้ำลายวิจิตร กลุ่มหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดหรือแม้แต่ภาพแม่พระธรณีบีบมวยผมแห่งวัดชมภูเวกที่ได้รับการยกย่องว่างามที่สุดในประเทศไทย และมาทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญของนนทบุรีที่มีผลงานดีเด่นระดับชาติ
ปั้นก้อนดินเหนียว สู่หม้อดินโบราณเมืองนนท์
เครื่องปั้นดินเผาสัญลักษณ์แห่งนนทบุรี
ประติมากรรมดินเผาขนาดใหญ่ “หม้อน้ำลายวิจิตร” อันเป็นตราประจำจังหวัดนนทบุรี แกะรอยที่มาที่ไปของสัญลักษณ์ประจำจังหวัดนนทบุรีแห่งนี้
เครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ดและบ้านบางตระนาวศรี
ชมต้นกำเนิดเครื่องปั้นดินเผาอันวิจิตรบรรจงฝีมือชาวมอญ จากแหล่งผลิต 2 แห่ง คือ บ้านเกาะเกร็ดและบ้านบางตระนาวศรี ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จากทั้งสองแห่ง จึงทำให้เครื่องปั้นดินเผาจากเมืองนนท์เป็นที่รู้จักกันดี
ชมต้นกำเนิดเครื่องปั้นดินเผาอันวิจิตรบรรจงฝีมือชาวมอญ จากแหล่งผลิต 2 แห่ง คือ บ้านเกาะเกร็ดและบ้านบางตระนาวศรี ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จากทั้งสองแห่ง จึงทำให้เครื่องปั้นดินเผาจากเมืองนนท์เป็นที่รู้จักกันดี
ภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผานนทบุรี
ชมฉากจำลองขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาตามวิธีการดั้งเดิมของบ้านเกาะเกร็ดที่ไม่มีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน
การค้าเครื่องปั้นดินเผานนทบุรีในอดีต
ชมภาพดีตในยุคทองของการค้าเครื่องปั้นดินเผาที่เกาะเกร็ดซึ่งกลับคืนชีวิตขึ้นใหม่ด้วยเทคนิคพิเศษและตามรอยวิถีการค้าของพ่อค้าเรือโอ่ง
แหล่งศึกษาดูงานด้านวัฒนธรรม
ที่ตั้ง ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า ท่าน้ำนนท์ อ.เมือง จ. นนทบุรี
โทร 0-2525-0622, 0-2589-0500, 0-2589-0502 ต่อ 174-176
ที่ตั้ง ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า ท่าน้ำนนท์ อ.เมือง จ. นนทบุรี
โทร 0-2525-0622, 0-2589-0500, 0-2589-0502 ต่อ 174-176
การเดินทาง
ทางบก : รถเมล์สาย 32, 63, 97, 114,117,175, 203, 543 และ 545
ทางน้ำ : เรือด่วนเจ้าพระยา จากท่าช้างสุดทางท่าน้ำนนท์
เวลาทำการ
วันอังคาร – ศุกร์ : เวลา 9.00 – 17.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ : เวลา 10.00 – 18.00 น.
การบูรณาการแหล่งเรียนรู้นี้ ไปใช้ประโยชน์กับการเรียนการสอนในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551
มาตราฐานการเรียนรู้ ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น
ตัวชี้วัดที่ 3/1 ระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน
ตัวชี้วัดที่ 3/2 สรุปลักษณะที่สำคัญของขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรมของชุมชน
ตัวชี้วัดที่ 3/3 เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอื่นๆ
สถานที่แห่งนี้จึงถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญตามหลักสูตรการศึกษาที่สามารถทำให้ผู้เรียนได้เกิดองค์ความรู้ตามมาตราฐานตัวชี้วัดดังกล่าว นอกจากนี้เรายังจะสามารถจำแนกประเภทของแหล่งเรียนรู้นี้ได้ด้วยความหลากหลายทางศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของที่แห่งนี้จึงจัดเป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ประเภท บุคคล มีการจัดแสดงบุคคลสำคัญพร้อมกับผลงานที่ได้รับการยกย่องเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งถือเป็นตัวอย่าง ต้นแบบกับบุคคลรุ่นหลังสืบไปในอาชีพ รวมถึงแหล่งเรียนรู้ประเภทสื่อสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ที่ใช้เป็นช่องทางการสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวในอดีตผ่านสิ่งประดิษฐ์ ขั้นตอนกรรมวิธีการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ทางโบราณวัตถุ อีกทั้งยังจัดว่าเป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทวัตถุและอาคารสถานที่ ที่มีศักยภาพเป็นแหล่งเรียนรู้ด้วยตัวของมันเอง สามารถสื่อความหมายโดยลำพัง เช่น รูปทรงการออกแบบของตัวอาคาร รูปทรงของเครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น
ผลการเรียนรู้ที่ได้รับจากการศึกษาแหล่งเรียนรู้
ด้านความรู้ ผู้เรียนเข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง
ด้านเจตคติ ผู้เรียนสามารถตระหนักถึงความสำคัญและสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่การสร้าง
คุณค่าในการอนุรักษ์วัฒธรรมของชุมชน
ด้านทักษะ ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากการศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติจากผู้มีประสบการณ์
ในการสืบทอดเรื่องราวต่าง
ด้านความรู้ ผู้เรียนเข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง
ด้านเจตคติ ผู้เรียนสามารถตระหนักถึงความสำคัญและสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่การสร้าง
คุณค่าในการอนุรักษ์วัฒธรรมของชุมชน
ด้านทักษะ ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากการศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติจากผู้มีประสบการณ์
ในการสืบทอดเรื่องราวต่าง
ศูนย์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี
นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้และทักษะด้านความคิดจากการได้ฝึกปฏิบัติในสถานที่จริง
รวมไปถึงการบูรณาการในสาระวิชาอื่นๆ ตามหลักของเครือข่ายการเรียนรู้
ด้วยวิธีการที่สืบทอดกันต่อๆมาคือ
การถ่ายทอดแลกเปลี่ยนและกระจายความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆโดยเฉพาะเกี่ยวกับชุมชนและความรู้ดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาภายในชุมชน
ในแต่ละชุมชน
ซึ่งมักมักเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชนนั้นๆและเป็นความรู้ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสภาพที่เป็นจริงของชุมชน
เป็นข้อมูลการเรียนรู้ ข้อมูลท้องถิ่นที่ดีมาก
ตอบลบ