วิเคราะห์ข่าวครั้งที่ 1


เมื่อเวลาเปลี่ยนไป... 
ที่มาภาพ : http://www.tia.or.th/main.php?m=article&p=2&id=10
      เราเองก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งต่างๆที่มีผลพวงเชื่อมโยงกันจะเปลี่ยนไปด้วย ทั้งนี้ความเปลี่ยนแปลงที่ว่าก็เกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย ตามแต่พัฒนาการในช่วงเวลานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดูจากครอบครัวที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ สภาพเศรษฐกิจการเมือง การปกครอง สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆและทำให้คนในแต่ละยุคสมัยมีทัศนคติ ความเชื่อ ค่านิยม และพฤติกรรมการแสดงออกที่มีความแตกต่างกันออกไป นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1- 2 ได้มีการจัดลำดับของมนุษย์ในแต่ละ Generation


ที่มาภาพ : http://www.cmmu.mahidol.ac.th/cmmu/index.php/cmmu-on-press/305-gen-y

        เพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินติดหูกันมาบ้างในเรื่องของ Gen-B,Gen-X หรือ Gen-Y ก็ดี ซึ่งคนในแต่ละยุคนั้นมีนิสัยใจคอ พฤติกรรมที่แตกต่างกันไป และในปัจจุบันเพื่อนผู้อ่านหรือตัวนิลที่เป็นผู้เขียน ก็อยู่ในยุคของ Generation จริงๆแล้วการแบ่ง Generation ไม่ได้สิ้นสุดแค่นี้แต่ ณ ปัจจุบันกำลังเริ่มเข้าสู่ ยุค Generation Me หรือที่เราเรียกอีกอย่างว่ายุคที่ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ด้วยความที่ตัวนิลเองเป็นคนยุค Generation อีกทั้งยังใกล้ชิดกับ Generation นี้มากที่สุดและคิดว่ากลุ่มคนในนี้มีจำนวนมากซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ รอบตัวอยู่ไม่น้อยทีเดียว  

นิลอยากจะชวนเพื่อนๆ ผู้อ่านลองไปทำความเข้าใจกับผู้คนใน 
Generation กัน ว่าเขามีนิสัยใจคออย่างไร?



ทีมาภาพ : http://www.marketingoops.com/reports/behaviors/gen-y-4/
Generation Y คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523 – 2543 อายุ 8 – 28 ปี เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข คนกลุ่มนี้ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วยงานอย่างไร อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน

        ปัจจุบัน คนกลุ่มนี้อยู่ในทั้งช่วงวัยเรียน และวัยทำงาน และจากการที่ยุคนี้เป็นยุคที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง เรียกได้ว่าสามารถใช้เครื่องไม้เครื่องมือได้อย่างคล่องแคล่ว อย่างที่เราอาจจะเคยเห็นภาพคนยุคใหม่ที่ในมือต้องกดสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา นั่งเล่น iPad ไปด้วย คุยโทรศัพท์ไปด้วย แถมบางคนยังกินข้าวไปพร้อม ๆ กันด้วยอีกต่างหากจะเห็นได้ว่าคนในยุค Generation Y มีความมั่นใจในตัวเองสูง คาดหวังกับความสำเร็จค่อนข้างมาก บวกกับความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ดูจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วจนในบางครั้งบางสถานการณ์ความกล้าเหล่านี้ก็มีมากเกินไปจนทำให้ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดๆ อันนำมาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ดังเช่นพฤติกรรมดังต่อไปนี้


เนื้อหาข่าว :

เจออีก! แก๊งโกงสอบไฮเทครับสมัครทางเฟสบุ๊ค


        พบทุจริตอีกรูปแบบ ที่ บช.ภ. 9 ปลอมบัตรประชาชนไปสอบแทน เผย แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน เตรียมประสาน ปปง. ยึดทรัพย์ ขณะที่ผู้ต้องหาข​บวนการทุจริ​ตสอบนายสิบ​ตำรวจรายล่าสุดอ้างถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ปฏิเสธไม่เคยรู้จักกับขบวนการโกงสอบที่ถูกจับมา ล่าสุดศาลให้ประกันตัวทั้งหมดแล้ว
ที่มาภาพ : http://www.komchadluek.net/detail/20120613/132692
        เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สำกนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.จักษ์ จิตต์ธรรม พ.ต.ท.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนการทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกที่จบวุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่าเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า จนถึงขณะนี้พบว่า การทุจริตสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจทั่วประเทศมีการทุจริตในทุกพื้นที่ แม้บางพื้นที่จะยังไม่สามารถหาหลักฐานได้ แต่มีหลักฐานบางอย่างที่พบว่า มีการส่อไปในทางทุจริต ทั้งนี้ ชุดสืบสวนได้รายงานมายัง พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. ว่า มีสมมุติฐานว่า อาจมีการทุจริตมากกว่า 1 แบบ เช่น รูปแบบที่พบเมื่อวานคือ การใช้เทคโนโลยีสั่นสะเทือนผ่านซิมโทรศัพท์ อีกรูปแบบหนึ่ง คือ สอบแทนกันโดยการปลอมบัตรประชาชนทั้งใบในพื้นที่ ซึ่งจะต้องสอบสวนต่อไปว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างและออกจากทางราชการหรือไม่


        “เครือข่ายพวกนี้ จะมีการแบ่งเป็นสาย แต่ละสายจะมีทีมที่รับผิดชอบที่เหมือนระบบขายตรง เช่น คนนี้มีสายก็ให้สายไปหาคน มีถึงขั้นไปประกาศทางเฟซบุ๊คที่จะหาคนมาสอบแทนด้วย โดยที่บช.ภ. 9 ยืนยันว่า มือปืนที่ไปสอบแทนรับสมัครทางเฟซบุ๊ค “ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

ที่มาภาพ : http://www.xn--22capa4ekp1e6e0bf3ord.com
        พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ผบ.ตร. ย้ำให้ ผบก.สส. บช.ภ. 1-9 ศชต. และ บก.สส.บช.น. หาข้อมูลเชิงลึกเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายกลุ่มนี้ พร้อมทั้ง รายงานมายัง พล.ต.อ.ปานศิริ ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ทุกวัน เนื่องจาก ตร. ต้องการขุดรากถอนโคนกลุ่มทุจริตการสอบคัดเลือก เพราะทราบว่า กลุ่มนี้จะทุจริตการสอบทั้งเอกชน ส่วนราชการต่าง ๆ ด้วย
 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเครือข่ายที่ถูกจับกุมได้แล้ว 20 ราย ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหาตาม พรบ.วิทยุโทรคมนาคม และ พรบ.คอมพิวเตอร์ กับกลุ่มที่ดำเนินการทุจริตการสอบ ในท้องที่บช.ภ. 3 บช.ภ. 5 บช.ภ. 6 บางรายที่ถูกจับกุมเคยถูกจับเกี่ยวกับการทุจริตการสอบมาแล้ว เมื่อ 4-5 ปี ก่อน ที่ จ.ลำปาง สำหรับ บช.ภ. 9 แจ้งข้อหา ปลอมแปลงบัตรประชาชนด้วย

        
สำหรับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จะสามารถประสานไปยัง ปปง. เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ได้ด้วย ส่วน ดาบตำรวจสภ. ศรีสะเกษ นั้น ยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้อย่างไร ต้องรอผลสอบสวนของคณะกรรมการอีกครั้ง ส่วนนักเรียนที่ทุจริตการสอบโดยการพกเครื่องสั่นเข้าห้องสอบนั้น ขณะนี้มีจำนวนประมาณ 200 คน ซึ่งเชื่อว่าจะมีเพิ่มอีกแน่นอน ซึ่งทางตำรวจจะสกีนคนกลุ่มนี้ออกไปและไม่ได้เข้าสอบในครั้งต่อไปแน่นอน เพราะกลุ่มนี้จะถูกขึ้นบัญชีดำและถูกตัดสิทธิ์การสอบข้าราชการทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่า จะแจ้งข้อหากับนักเรียนกลุ่มนี้ได้ ต้องรอผลสอบสวนของคณะกรรมการเสียก่อน

        พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนการจัดหาวันสอบใหม่นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดวันให้เร็วที่สุดทันทีที่ผลสอบสวนของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุดเสร็จสิ้น โดยไม่มีกรอบระยะเวลา โดยให้ผู้เข้าสอบทุกคน เก็บหลักฐานการสอบไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในการลงสมัครสอบครั้งต่อไป โดย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ซึ่งเป็นคณะกรรมการ ที่จะดูแลการสอบจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบการสอบซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะจัดสถานที่สอบให้น้อยลง หรือ ให้ผู้เข้าสอบทั้งหมดสอบในที่เดียวกัน

                    **********************************************

ที่มาภาพ : http://under30ceo.com/gen-y-lazy-maybe-assessment/
        เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เรามองเห็นสภาพปัญหาของสังคมยุคไอทีกับผู้คนในยุค Generation Y
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า 
 social network มีอิทธิพลกับคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สะดวก รวดเร็ว สำหรับการติดต่อสื่อสารกัน ด้วยธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์แล้วเป็นสัตว์สังคม ต้องคบค้าสมาคม เมื่อมีเครื่องมือที่ทันสมัยมาตอบสนองความต้องการของบุคคลได้อย่างรวดเร็วแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เปรียบเหมือนกับดาบสองคมมีด้านที่ดีก็ย่อมส่งผลเสียได้เหมือนกัน เพราะเหล่ามิฉาชีพหรือพวกประกอบอาชีพทุจริตทำการเจาะช่องทางที่ให้ได้ใกล้ชิดกับความต้องการของคน โดยยึดความต้องการของมนุษย์เป็นหลัก ความต้องการประสบความสำเร็จ ความต้องการที่จะมีชื่อเสียง ซึ่งหากจะวิเคราะห์กันแล้ว ก็นับเป็นความต้องการในลำดับสูงๆตามทฤษฏีความต้องการของ maslow ที่ได้กล่าวไว้ทั้งสิ้น

ที่มาภาพ : http://tourismindustrydpu002anny.blogspot.com/2010/07/3.html

        และด้วยความคาดหวังที่จะประสบผลสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงาน หวังจะมีชื่อเสียงในสังคมอันเกิดจากกิเลสความไม่รู้จักพอ รวมทั้งการล่อหลอมจากสังคมที่มีการแข่งขันกันสูง ไม่ว่าจะในสังคมขนาดเล็กไปจนถึงสังคมขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีการรณรงค์โตไปไม่โกงก็ตามที แต่ดูจะไม่เป็นผลเท่าที่ควร ผู้คนยังคงพยายามที่จะหาหนทางเพื่อสนองความต้องการของตัวเองไม่สิ้นสุด แม้ว่าจะแลกมาด้วยการกระทำที่ไม่เหมาะสมก็ตาม



        ทั้งผู้ริเริ่ม ผู้จ้างวาน และผู้ที่รู้เห็นเป็นใจในการใช้เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์กระทำความผิดอันเกิดมาจากเจตนาเพื่อทุจริตการสอบ การให้ข้อมูลที่สามารถกระจายได้รวดเร็ว เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบในหลายๆด้านทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรในวิชาชีพตำรวจ แสดงให้เห็นถึงความไม่สำคัญของระบบการศึกษาที่คนต้องการได้มาแค่ความสำเร็จแต่ไม่มีคุณภาพของวิชาชีพ และในทางจิตวิทยายังถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และที่สำคัญยังส่งผลกระทบต่อการปกครองดูแลบ้านเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐ อาจทำให้ได้รับความเชื่อถือจากประชาชนน้อยลง


ที่มาภาพ : http://pornthip-5521400845.blogspot.com/2013/09/blog-post.html
        แม้ว่าครั้งนี้ความตั้งใจในการทุจริตของคนกลุ่มดังกล่าวจะไม่เป็นผลก็ตาม แต่เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนให้ผู้คนในสังคมตระหนักถึงความคิดคดโกงที่เริ่มจากจุดเล็กๆและในภายภาคหน้าอาจเกิดการคดโกงในระดับที่สูงขึ้นตามมา สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย เพราะฉะนั้นการปลูกฝังให้เด็กเป็นคนดี มีคุณธรรม และจริยธรรมและรู้จักใช้เทคโนโลยีในทางที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ไม่ก่อให้เกิดการทุจริตขึ้น โดยเริ่มจากสถาบันครอบครัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก


                                  
                                     เมื่อคนมีคุณภาพ … ประเทศก็มีคุณภาพด้วย



แหล่งที่มา :

http://www.komchadluek.net/detail/20120613/132692/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81!%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%84.html

http://www.stou.ac.th/study/sumrit/11-54(500)/page2-11-54(500).html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น