วิเคราะห์ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

Facebook กับการศึกษา            

             
               สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอทักทายท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคน ที่ยังคอยติดตามผลงานของนิลอยู่ พร้อมกับขอกล่าวคำว่า
สุขสันต์ สุขขี สวัสดีวันปีใหม่ ๒๕๕๗ นะค่ะ



             
ทีมาภาพ: http://hitech.sanook.com
มาถึงงานเขียนของนิลในครั้งนี้ นิลจะขอพูดถึงสิ่งที่เป็นเสมือนปัจจัยที่ ๖ ของสังคมในยุคเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของ
Social Network (เครือข่ายสังคมออนไลน์) เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ผู้คนนั้นจะขาดไม่ได้เลยสำหรับมนุษย์ยุคไอที ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าตื่นนอน กลางวันจะทานข้าว หรือก่อนเข้านอนในตอนเย็น สิ่งที่นิลจะกล่าวถึงต่อไปนี้ ล้วนมีบทบาทสำคัญในทุกช่วงเวลาของชีวิตทั้งนั้น และนี่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาหลักๆที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ในแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ช่วงเวลาและความยาวนานก็อาจจะแตกต่างกันไป บางคนอาจจะใช้งานมากกว่านี้ซ่ะอีก สิ่งดังจะกล่าวนี้ถูกจัดอยู่ในเทคโนโลยีรูปแบบของ  Social Network ที่สร้างขึ้นมาตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์สังคมโดยแท้จริง อีกทั้งการเข้าถึงที่ง่ายสะดวกรวดเร็วทันใจ เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอินเตอร์เน็ต

              มาถึงตรงนี้หลายๆคนคงจะพอเดาออกกันแล้วว่า นิลกำลังจะพูดถึงอะไร….?? ใช่แล้วค่ะ สิ่งนั้นก็คือ “Facebook” นั่นเอง เป็น  Social Network ที่เรียกได้ว่าในสมัยนี้มีใช้กันทุกคน ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ก็มีกันทั้งนั้น

              พูดถึง Facebook คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักหน้าคร่าตาของมันเลย อย่างน้อยๆถึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อตั้ง รู้แค่ว่ามันมีสิ่งๆนี้ให้ใช้อย่างไรอยู่ในโลกใบนี้ก็น่าจะเรียกว่ารู้จักแล้ว อาจจะเป็นเพียงคำบอกเล่าก็ตามแต่ หรืออาจจะมีคนคัดค้านว่าคนไม่รู้จักก็มี อันนั้นก็จริงนะค่ะแต่น่าจะเป็นเปอร์เซ็นที่น้อยเอามากๆ นิลอยากจะชวนเพื่อนๆผู้อ่านมามองในส่วนประโยชน์ของเจ้า Facebook หรือหากจะพูดถึงโทษนั้นก็มีมากมายอยู่ที่เราจะเลือกใช้งานและรับข้อมูลจากมัน


ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า Facebook คืออะไร?
ที่มาภาพ : http://www.telegraph.co.uk/finance/newsbysector/

              Facebook เป็นซอฟท์แวร์ในการสร้างเครือข่ายทางสังคมในโลกอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลต่างๆที่ต้องการ หรือใส่ความสนใจที่ชอบ จากนั้นระบบจะค้นหาผู้ที่มีความสนใจในลักษณะเดียวกัน และผู้ใช้สามารถเพิ่มหรือลบในการเชื่อมต่อไปหาผู้ใช้อื่นๆได้

ประวัติของ Facebook

              ผู้เริ่มต้นคิดค้น Facebook คือ Mr. Mark Zuckerburg อายุ 23 ปี เมื่อปี ค.ศ. 2003 ในขณะนั้นเป็นนักศึกษาแผนกจิตวิทยา ของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดสหรัฐอเมริกา โดยเปิดให้เป็นบริการหนึ่งของนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาเวิร์ดในการศึกษาหาข้อมูลเท่านั้น แต่เนื่องจากมีสมาชิกมาใช้บริการกันอย่างล้นหลามจึงทำให้มีการขยายเครือข่ายมากขึ้นและพัฒนามาถึงหลายล้านคนในโลกปัจจุบัน

ข้อดี
              1. Facebook จะเป็นการสร้างเครือข่ายและจุดประกายด้านการศึกษาได้อย่างกว้างขวาง หากใช้ได้อย่างถูกวิธี
              2. ทำให้ไม่ตกข่าว คือทราบความคืบหน้า เหตุการณ์ของบุคคลต่างๆและผู้ที่ใกล้ชิด
              3. ผู้ใช้สามารถสร้างเครือข่ายทางสังคม แฟนคลับหรือผู้ที่มีเป้าหมายเหมือนกัน และทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
              4. สามารถสร้างมิตรแท้ หรือเพื่อนที่รู้ใจที่แท้จริงได้
              5. Facebook เป็นซอฟแวร์ที่เอื้อต่อผู้ที่มีปัญหาในการปรับตัวทางสังคม ขาดเพื่อน อยู่โดดเดี่ยว หรือผู้ที่ไม่สามารถออก
                  จากบ้านได้ ให้มีเครือข่ายทางสังคม และเติมเต็มชีวิตทางสังคมได้อย่างดี ไม่เหงาและปรับตัวได้ง่ายขึ้น
              6. สร้างเครือข่ายที่ดี สร้างความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจที่ดีแก่ผู้อื่นได้ 

ที่มาภาพ : http://www.tukkaeit.com/showthread.php?t=4590

              ในวันนี้นิลจะขอพูดถึงคุณงามความดีของเจ้า Facebook นี้ให้เพื่อนๆได้ฟังจากประสบการณ์ตรงของนิลเอง ฐานะที่ Facebook เป็นเพื่อนซี้นิลมาตลอดเวลาหลายปี เป็นทั้งเพื่อน ทั้งเลขาส่วนตัวที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเรียนของนิล

คุณเคยไหม??................วันหยุดเราอยู่บ้านต่างจังหวัดแล้วจะคุยงานกลุ่มกับเพื่อนหลายๆคนพร้อมกันได้อย่างไร
                                               (แบบที่เข้าใจตรงกันทุกคนนะ)

คุณเคยไหม??................รู้สึกว่าคุยผ่านตัวอักษรแล้วสื่อสารไม่ตรงกันมันต้องได้เห็นหน้าแล้วค่อยคุยได้

คุณเคยไหม??...............วันๆเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ไปเรียน ไม่ได้ไปไหน แต่กลับสามารถรับรู้ข่าวสารภายในห้องเรียน
                                             ในชั่วโมงเรียนนั้นๆ รวมถึงข่าวสารบ้านเมืองในระแวกที่คุณอยู่โดยที่ไม่ต้องลงไปนั่งทานข้าว
                                             ที่ร้านอาหารตามสั่งในซอยแล้วรอฟังจากคนที่เขาเม้าท์กัน

คุณเคยไหม??...............อยากหาที่ลับๆประชุมงาน แต่ห้องสมุดก็ดันคุยกันเสียงดังไม่ได้ จะเข้าร้านอาหารหรือไปนั่ง
                                             กิน
ฟาสต์ฟูดก็ต้องมีทุน อีกทั้งต้องหาสถานที่ที่มันเอื้ออำนวยกับการเดินทางของสมาชิกในกลุ่มอีก
                                             ช่างยุ่งยากเสียนี่กระไร

คุณเคยไหม??...............ไม่ได้เข้าห้องสมุดเลย แต่กลับมีบทความดีๆ มีสาระมาอยู่ในมือให้ได้อ่านได้เพิ่มพูนความรู้ให้กับสมอง


ที่มาภาพ : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1376294291

              นี่เป็นเพียงข้อคำถามเล็กๆส่วนหนึ่งเท่านั้นกับคุณงามความดีของเจ้า Facebook นี่ นอกเหนือจากที่ไม่ได้พูดมาก็ยังมีอีกมากมายแล้วแต่รูปแบบของผู้ใช้แต่ล่ะคน จากประสบการณ์ของนิลนั้น เจ้า Facebook นี่สามารถตอบสนองนิลได้ทุกอย่างในเรื่องของ ผู้ช่วยในการศึกษา และจากข้อคำถามข้างต้นนั้น Facebook สามารถทำให้นิลตั้งกลุ่มใหม่เพื่อคุยเรื่องงานเฉพาะกับเพื่อน แม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันหยุด เพื่อนในกลุ่มต่างก็กลับบ้านตัวเองที่ต่างจังหวัด เราก็ยังสามารถประชุมงานกันได้ จากการออกความเห็นภายในกลุ่ม แชร์เสียง ภาพ ไฟล์ข้อมูลงาน เพื่อร่วมระดมความคิดเห็น พร้อมทั้งแบ่งหน้าที่การทำงานเสร็จสรรพ รึหากว่าการลงความเห็นมีความแตกต่างกันมากก็สามารถสร้างโพลสำรวจความเห็นได้ด้วย ป้องกันปัญหาความขัดแย้งในการทำงานสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน หรือหากสื่อสารกันผ่านตัวอักษรยังไม่เข้าใจก็สามารถเปิดกล้องใช้ Video call ของ Facebook คุยแบบเห็นหน้ากันได้ 


               
ที่มาภาพ : http://www.tibbr.com/blog/topics/enterprise-social-network-topics
              งานหลายชิ้นของนิลกับเพื่อนๆสำเร็จได้ก็เพราะมี
Facebook หรือแม้แต่การเข้าชั้นเรียนสาย ขาดเรียนในวันนั้นๆ เพื่อนในห้องก็จะคอยอัพเดทสถานะเป็นสถานการณ์สดภายในห้องเรียนและแชร์ภาพบทเรียนเหมือนกับว่าเราไปนั่งเรียนด้วยอย่างนั้น รวมไปถึงการส่งงานอาจารย์หรือการเข้าถึงตัวท่านเพื่อขอคำปรึกษากลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเมื่อเรามี Facebook เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร เราสามารถส่งงานอาจารย์ได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องไปส่งที่โต๊ะทำงานอาจารย์ หรือลิ้นชักหน้าห้องอีกต่อไป

            

               เขาว่ากันว่าความรู้ไม่จำเป็นต้องมาจากแค่ในตำราเรียนเท่านั้น ความรู้มีอยู่รอบๆตัวเราและในสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ก็เช่นกัน เป็นจุดรวบรวมความหลากหลายทางบุคคล ทางการศึกษา ศาสนา ศิลปะวัฒนธรรม ฯลฯ ซึ่งต่างคนก็สร้างเนื้อหาที่มีทั้งประโยชน์และโทษให้ได้อ่านกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกรับสารนั้นๆอย่างไรด้วย
              นี่ก็เป็นเพียงคุณงามความดีส่วนหนึ่งของ Facebook ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาจากประสบการณ์การใช้ของตัวนิลเอง
นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกมากมาย หากเล่าก็คงยาว เอาเป็นว่าถ้าหากไม่มี
Facebook คอยช่วยในเรื่องการเรียนนิลเองก็คงจะทำงานลำบากอยู่เหมือนกัน เลยอยากจะขอตั้งนิยามเก๋ๆ ให้ผู้ช่วยคนเก่งของนิลซักหน่อย

       
ที่มาภาพ : https://www.seoclerks.com/wanttags/Usa


 F = Fast (รวดเร็ว)
 A = Away (สม่ำเสมอ,ต่อเนื่อง)
 C = Connect (เชื่อมต่อ)
 E = Electric (เกี่ยวกับไฟฟ้า)
 Book = หนังสือที่เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระต่างๆ
           



Facebook = หนังสือ Electric ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระต่างๆสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลา (หากมีสัญญาณอินเตอร์เนต อิอิ)

              พูดถึงคุณงามความดีไปแล้วล่ะก็มีมากส่วนโทษภัยของมันก็มีมากไม่แพ้กัน หากว่าวันทั้งวันมือของคุณมัวแต่วุ่นวายอยู่กับเจ้าอุปกรณ์เชื่อมต่อ Facebook นี่ ไม่ยอมลดละสายตาไปที่อื่นใดแล้วล่ะก็ จะเกิดผลเสียต่อตัวคุณและบุคคลรอบข้างอย่างแน่นอน ทั้งเสียเวลา เสียสุขภาพ  เสียความสัมพันธ์กับบุคคลรอบๆข้าง
              ใช้กันแต่พองาม รู้จักแบ่งเวลาให้เหมาะสม เลือกรับ เลือกแชร์ เลือกกด
Like แต่สารที่ควรจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่พบเห็น อีกทั้งไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นอันจะเป็นการกระทำความผิดทางกฏหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นะค่ะ
               ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันมาถึงตรงนี้ ผลงานการเขียนของนิลยังคงมีออกมาให้อ่านกันอย่างสม่ำเสมอ ท้ายนี้นิลก็จะขอเกาะกระแสซักนิดนึง ให้งานเขียนนี้มาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับเข้าสู่ปีใหม่ ฟ้าใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ขอให้อำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยที่ท่านนับถือช่วยปกป้องคุ้มครอง ดลบรรดาลให้ผู้อ่านทุกๆท่านพบเจอแต่ความสุขสวัสดิ์ ให้สิ่งร้ายๆอยู่กับปีเก่า แล้วเริ่มต้นใหม่กับปีใหม่ สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นคนดีเพื่อสร้างสังคมดีและประเทศที่ดีภายใต้ร่มพระบารมีของพ่อหลวงเรานะค่ะ

Happy New Year 2014



อ้างอิงข้อมูล : http://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=3487.0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น